รอยเหลือง น้ำหมึก เสื้อผ้าคราบหนา ซักให้ขาวง่ายมาก ร้านซักไม่เคยบอก
คราบสกปรกบนเสื้อผ้าที่จัดว่ากำจัดยากสุดๆซึ่งก็คือ คราบเปื้อนหมึก คราบเหลือง คราบฝังแน่นต่างๆกว่าจะทำให้ผ้ากลับมามีความสะอาดดังเดิมได้ ก็จำเป็นต้องซักกันตั้งหลายรอบกว่าคราบจะจางหายไป แม้กระนั้นถ้าเกิดต้องการจะจัดการกับรอยคราบเหล่านี้ให้สะอาดแบบง่ายๆก็มาลองวิธีขจัดคราบตามนี้กันเลย
ยาสระผมหรือน้ำยาที่เอาไว้ล้างจานกำจัดคราบเหลือง
ถ้าหากที่บ้านไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวช่วยสำหรับการซักและก็ทำความสะอาดเสื้อผ้าก็ช่างเถอะจ้ะ แค่นำยาสระผมแชมพูหรือน้ำยาสำหรับล้างจานของใช้ภายในครอบครัวของพวกเรานี่แหละ เอามาป้ายลงบนคราบที่เป็นสีเหลืองจากเหงื่อไคลรวมทั้งคราบสกปรก ทิ้งเอาไว้ 30 นาที ต่อจากนั้นก็นำไปทำความสะอาดตามปกติ เสื้อผ้าก็จะกลับมามีความสะอาดเหมือนใหม่
น้ำส้มสายชูกับน้ำยาล้างจานขจัดคราบเปื้อน
บางคนบางครั้งอาจจะใช้น้ำส้มสายชูกลั่นในครัวมาราดลงบนคราบเปื้อนโดยตรงเลยก็ได้ ทิ้งเอาไว้สัก 10 นาที และหลังจากนั้นก็ค่อยบีบน้ำยาล้างจานลงไปบนคราบที่เป็นรอยสกปรกและก็เปื้อนสัก 2-3 หยด หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วมือค่อยๆขัดคราบเปื้อนเบาๆทิ้งเอาไว้อีกสัก 5 นาที เสร็จแล้วหลังจากนั้นก็นำไปล้างผ่านน้ำเย็น ระหว่างนั้นจะใช้สบู่มาขัดทำความสะอาดคราบเปื้อนร่วมด้วยก็ได้จ้า
นมเปรี้ยวสามารถจัดการกับรอยคราบหมึกบนเสื้อผ้าได้เหมือนกัน
วิธีก็คือ ให้แช่เสื้อผ้าที่เปื้อนในนมเปรี้ยวโดยประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วต่อจากนั้นก็นำเสื้อผ้ามาซักด้วยน้ำเย็นไหลผ่าน ขณะที่กำลังซักเสื้อผ้าด้วยน้ำเย็นให้นำสบู่ก้อนมาขัดคราบที่เป็นรอยเปื้อนร่วมด้วย เสร็จและก็นำเสื้อผ้าไปซักในน้ำเย็นอีกรอบ ถ้าเกิดคราบที่เป็นรอยเปื้อนยังคงเหลืออยู่ ให้ทำตามขั้นตอนทั้งหมดอีกเรื่อยๆตราบจนกระทั่งรอยเปื้อนหมึกจะหมดไปจ้ะ
กำจัดคราบเหลืองบนเสื้อผ้าด้วยน้ำมะนาว
สำหรับคราบเหลืองบนเสื้อผ้า ที่ติดฝังแน่นมานาน ลองใช้น้ำมะนาวผสมกับน้ำสะอาดในจำนวนที่เท่าๆกัน มาแช่ผ้าก่อนนำไปซักตามปกติก็ได้ แนวทางง่ายๆอย่างนี้จะช่วยทำให้คุณเบาแรงกับการกำจัดรอยเปื้อนลงไปได้มากเชียวล่ะ
น้ำเกลือช่วยสยบรอยคราบสีเหลือง
คราบที่เป็นสีเหลืองๆบนเสื้อผ้ายังสามารถใช้เกลือ 1 ช้อนชาพูนๆละลายกับน้ำร้อน แล้วเอามาราดลงบนคราบเหลืองที่ติดอยู่ที่เสื้อผ้าครู่หนึ่ง แล้วต่อจากนั้นก็ค่อยนำผ้าไปซักเหมือนอย่างที่เคยซักตามปกติได้ด้วยนะจ๊ะ
รอยเปื้อนชอล์คเขียนผ้า
นำผ้าที่เปื้อนไปแช่ลงไปในน้ำสบู่อ่อนๆหรือน้ำผสมผงซักฟอก ก่อนนำผ้าไปซัก โดยย้ำขยี้ตามแนวรอยเปื้อนตราบจนกระทั่งรอยจะออก หรือโรยผงซักผ้าทิ้งเอาไว้ตามแนวรอยเปื้อนก่อนนำผ้าไปซัก
ซักผ้าขนหนูด้วยน้ำส้มสายชู
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สีตก ให้ล้างผ้าขนหนูที่มีเฉดสีต่างๆใกล้เคียงกันในน้ำอุ่นสำหรับเพื่อการซักในครั้งแรกโดยใช้ผงซักผ้าราวๆ 1/2 ตามคำแนะนำ แล้วเพิ่มเติมน้ำส้มสายชูขาว 1/2 – 1 ถ้วยลงในน้ำระหว่างรอบการล้าง น้ำส้มสายชูจะช่วยกำหนดสี และก็ขจัดคราบผงซักฟอกส่วนเกิน
เขย่าผ้าขนหนูก่อนนำไปอบแห้ง
เมื่อนำผ้าออกมาจากเครื่องซักผ้า ให้เขย่าผ้าขนหนูก่อนนำไปอบแห้งเพราะเหตุว่าจะช่วยให้นุ่มฟูขึ้น อย่ารีดผ้าขนหนู การเขย่าผ้าขนหนูจะช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าขนหนูบิดเป็นลูกบอลในเครื่องอบผ้า ซึ่งจะทำให้แห้งช้าลง
ใช้ผงซักฟอกมากจนเกินไป
การใช้ผงซักฟอกมากจนเกินไปนี้ ทำให้มีฟองมาก และก็ทำให้ความสกปรกไปจับอยู่ที่รอบๆปกเสื้อเชิ้ต ซึ่งก็ทำให้ผ้ายิ่งสกปรกมากเข้าไปใหญ่ และก็ยังจะมีผงซักฟอกหลงเหลือ ล้างออกไม่หมดอีกด้วย
วิธีทำให้ผ้ามีสีขาวสดใส
น้ำมะนาว อย่าเพิ่งมองข้ามกันนะคะว่าเจ้ามะนาวผลเล็กๆนี่จะมีคุณประโยชน์เยอะมากซึ่งช่วยในการขจัดคราบสกปรกที่ติดบนใยผ้าไม่ได้ เพราะเหตุว่าฤทธิ์ของความเป็นกรดในมะนาวนี่แหละจ้ะจัดได้ว่าเป็นสารฟอกขาวตามธรรมชาติที่ได้ผลดีมาก สำหรับเพื่อการช่วยทำให้ผ้ามีสีขาวสดใสขึ้นได้ วิธีก็เพียงแค่ให้ท่านเพิ่มน้ำมะนาวหนึ่งถ้วยลงในถังซักผ้า แล้วก็ทำซักเหมือนอย่างที่เคยซักตามปกติ เพียงนี้ผ้าก็จะขาวสดใสและก็ยังได้มีกลิ่นหอมสดชื่นของมะนาวอีกด้วย
ดูเรื่องอุณหภูมิน้ำในการซักด้วย
การกำหนดอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละประเภทเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยให้การชำระล้างเสื้อผ้าง่ายรวมทั้งสะดวกขึ้น ยกตัวอย่างเช่นน้ำเย็นเหมาะกับผ้าเนื้อบาง ผ้าที่หดตัวได้ง่าย ส่วนน้ำอุ่นเหมาะสมกับเนื้อผ้าที่มีความสกปรกระดับปานกลาง ส่วนน้ำร้อนนั้นเหมาะสมกับผ้าที่สกปรกมากมาย และก็ผ้าขาว
เคล็ดลับทำให้ผ้าขาวยิ่งขาวสดใส แต่หลังจากซักผ้าเสร็จสิ่งจำเป็นอีกอย่างก็คือแสงอาทิตย์ ควรจะตากผ้าเอาไว้ในรอบๆที่มีแดดจ้าๆแสงอาทิตย์จะช่วยทำให้ผ้าขาวยิ่งขาวสะอาดมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถจัดการกับรอยคราบเลอะเทอะตกค้างที่เหลือไว้เจือจางให้หมดออกไปได้ด้วย