เก็บไว้ทำเลย แก้กลิ่นปาก กลิ่นตัว จากของในครัว

เก็บไว้ทำเลย แก้กลิ่นปาก กลิ่นตัว จากของในครัว

ถ้าเรามีกลิ่นกายที่สะอาดหอมสดชื่น มันก็จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเราให้ดูดีมีสเน่ห์มากขึ้น แต่ว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างนั้น วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับที่ไม่ลับให้ได้ลองไปทำตามกัน

เลือกทานอาหารแล้วก็ดื่มน้ำมากๆ

ของกินที่กินเข้าไปก็มีผลต่อกลิ่นปากถึง 12 ชั่วโมง และก็มีผลต่อกลิ่นกายอีก 48 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงต้องควรหลีกเลี่ยงของกินบางชนิดที่ทำให้กลิ่นเต่าแรงในตอนกินกิจกรรมสำคัญ เป็นต้นว่า หัวหอม กระเทียม เนื้อแพะ และก็ของกินแปรรูปต่างๆนอกจากนั้นการดื่มน้ำมากๆแล้วก็ลดเครื่องแอลกอฮอล์ก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน

ของกินบางประเภท

การทานอาหารก็มีส่วนทำให้เรามีกลิ่นตัวได้นะคะสาวๆโดยยิ่งไปกว่านั้นของกินชนิดเครื่องเทศ และก็ของกินที่มีสารโคลีนสูง เช่น แกงกะหรี่ หัวหอม เต้าเจี้ยว ผักชี ฯลฯ เนื่องจากว่าของกินกลุ่มนี้จะก่อให้ต่อมเหงื่อบริเวณใต้วงแขนขับไขมันออกมามากขึ้น ซึ่งจะนำมาซึ่งการทำให้มีกลิ่นเต่าออกมานั่นเอง

กำจัดขน

ขนจำนวนมากเกินไปที่ขึ้นปกคลุมตามส่วนต่างๆของร่างกายจะเป็นปัญหาต่อการระบายความร้อน ก่อให้เกิดความอบอ้าวบนผิวหนังซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ตัวเรามีเหงื่อไหลไคลย้อยมา แล้วก็ความชื้นจากเหงื่อนี่แหล่ะช่างเป็นที่ชอบใจของแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนา ด้วยเหตุนี้คนไหนที่รู้สึกตัวว่าขนมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นขนรักแร้ ขนทรวงอก ขนน้อง ก็ควรจะกำจัดออกไปบ้างให้มันบางเบาลงจะได้มีการระบายอากาศที่ดียิ่งขึ้น แล้วก็ภายหลังกำจัด ก็อย่าลืมอาฟเตอร์เชฟหรือทาครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อคงจะความชุ่มชื้นเเก่ผิวแล้วก็ป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคาย

สครับผิวกายเพื่อกำจัดกลิ่น

ผู้หญิงที่มีปัญหากลิ่นเต่าแรงมาก จำเป็นที่จะต้องดูแลตั้งแต่เรื่องอาหาร ไปจนกระทั่งการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านี้สิ่งจำเป็นอีกอย่างคือการหมั่นสครับผิวกายบ้างอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ด้วยการใช้เกลือขัดผิว หรือมะขามเปียกผสมน้ำผึ้งรวมทั้งน้ำมะกรูดขั้นสด มาสครับให้ทั่วผิว โดยทาทิ้งเอาไว้รอบๆใต้จั๊กกะแร้บางส่วน ซึ่งสารสครับพวกนี้จะเข้าไปช่วยกำจัดเชื้อโรคและก็สิ่งสกปรกข้างในรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวสะอาด แถมยังเป็นสูตรผิวขาว ที่ได้ประโยชน์อีกทั้งการลดกลิ่นเต่า รวมทั้งทำให้ผิวดูมีออร่า เนียนสวยเพิ่มขึ้นมาด้วย

ทำจิตใจให้รู้สึกดีและผ่อนคลายไม่เครียด

ทราบไหมว่าความเครียดนำมาซึ่งกลิ่นกายได้เหมือนกัน เพราะเหตุว่าตอนที่พวกเราเครียด ร่างกายจะผลิตสาร “แอลซิทิล โคลีน” ซึ่งอยู่รอบๆปลายประสาทออกมากระตุ้นต่อมเหงื่อ ก็เลยเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ช่วยทำให้เกิดกลิ่นเต่านั่นเอง

สวมเสื้อผ้าที่มีการระบายอากาศที่ดี

เสื้อผ้าที่พวกเราสวมส่งผลเป็นอย่างมากต่อการถ่ายเทอากาศที่ผิวหนัง ถ้าหากเสื้อผ้าที่พวกเราใส่รัดแน่น แนบเนื้อกระทั่งเกินความจำเป็น รวมทั้งการใส่เสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าใยสังเคราะห์ที่มีการระบายอากาศไม่ดีทำให้เนื้อผ้ามีคุณสมบัติเหมือนฉนวนความร้อน ย่อมทำให้ตัวเราเหงือออกมากเป็นพิเศษ เเละเป็นต้นเหตุหลักของกลิ่นเต่าที่เกิดขึ้นจากการสั่งสมตัวของแบคทีเรียบนคราบเปื้อนเหงื่อไคล โดยเหตุนั้นอีกหนึ่งทางซึ่งสามารถป้องกันการเกิดกลิ่นเต่าได้เป็นการเลือกสวมเสื้อผ้าที่หลวม พอดีตัว สวมใส่สบาย มีเนื้อผ้าที่ระบายอากาศที่ดีโดยยิ่งไปกว่านั้นเสื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติดังเช่นว่า คอตตอน แม้ทำเป็นก็จะช่วยลดการเกิดเหงื่อรวมทั้งกลิ่นกายได้มากเลยทีเดียว

จัดการกลิ่นตัวติดเสื้อด้วยน้ำมะนาว

ถ้าหากเสื้อของใครมีกลิ่นตัวติดอยู่ สามารถจัดการได้ด้วยน้ำมะนาวจ้ะ โดยให้บีบน้ำมะนาวใส่ด้านในถ้วย นำแปรงมาชุบแล้วก็ค่อยนำไปถูแขนเสื้อรอบๆใต้วงแขน เสร็จแล้วทิ้งเอาไว้สักราว 10 นาที ก่อนนำเอาไปซัก วิธีนี้จะช่วยกำจัดกลิ่นเต่าติดเสื้อให้หายไปได้

กลิ่นเท้าก็อย่าได้ละเลย

กลิ่นเท้าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่สมควรละเลย โดยยิ่งไปกว่านั้นหากมีเหตุการณ์ที่ต้องถอดรองเท้า โดยสามารถใช้ครีมหรือสเปรย์ยับยั้งกลิ่นเท้าได้ และบางทีอาจใช้แป้งข้าวโพดผสมเบกกิ้งโซดาก็ได้ด้วยเหมือนกัน (สามารถใช้ได้ทั้งกับเท้าและก็ใต้วงแขน) นอกจากนั้นการเลือกใส่รองเท้าที่เป็นหนังหรือผ้าก็ช่วยลดกลิ่นเท้าได้เช่นเดียวกัน แล้วก็อย่าลืมเปลี่ยนถุงเท้าอย่างน้อยวันละ 1 คู่ด้วยนะ

กลิ่นปาก นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราขาดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเอง และก็มักทำให้เป็นกังวลในยามคุยพูดคุยกับคนอื่นๆ วันนี้พวกเรามีวิธีลดกลิ่นปากที่ได้ผลดีมาบอกกัน

ขั้นพื้นฐานเป็นให้ดื่มน้ำมากมายๆรวมทั้งแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง สำหรับหลังรับประทานอาหาร ถ้าเกิดไม่สะดวกแปรงฟันก็บางทีอาจใช้วิธีเคี้ยวหมากฝรั่งแทนได้ ซึ่งหมากฝรั่งรสชินนามอนจะช่วยลดปัญหากลิ่นมากได้ดีกว่ารสมินต์

ยิ่งกว่านั้นก็บางทีอาจใช้วิธีอมน้ำมันมะพร้าวชนิดที่บริโภคได้ไว้ในปากนาน 20 นาทีก่อนแปรงฟันทุกเช้า หลังจากนั้นให้บ้วนออก ก็สามารถช่วยทำให้มีกลิ่นปากหอมสดชื่นตลอดทั้งวันได้ด้วยเหมือนกัน

บดเปลือกส้มหรือเปลือกของมะนาว

กรดซิตริกในมะนาวมีคุณลักษณะคล้ายกับกรดในน้ำลายที่แม้ว่าจะเจือจางแต่ว่าก็สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากได้ การนำเปลือกของมะนาวหรือเปลือกส้มที่คั้นน้ำแล้วมาเคี้ยวสักครู่จะช่วยทำให้แบคทีเรียที่กระตุ้นให้เกิดกลิ่นลดลงได้ แม้กระนั้นภายหลังจากเคี้ยวและก็อย่าลืมบ้วนปากด้วยน้ำที่สะอาดด้วย เนื่องจากเจ้ากรดจำพวกนี้ถ้าทิ้งเอาไว้ภายในปากนานๆก็กัดกร่อนเนื้อฟันได้เหมือนกัน

ทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีให้เพียงพอ

กลิ่นปากบางครั้ง ก็มาจากการขาดสารอาหารบางจำพวก อย่างเช่น สังกะสี เพราะเหตุว่าสังกะสีนั้นมีคุณลักษณะสำหรับการกำจัดเชื้อแบคทีเรียและก็เชื้อโรคที่เป็นอันตราย การทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีอย่าง ฟักทอง โกโก้ แล้วก็เครื่องในสัตว์ สามารถช่วยเพิ่มสังกะสีภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความสามารถสำหรับเพื่อการต่อสู้แบคทีเรียมากขึ้น

เลี่ยงการกินอาหารที่มีกลิ่นฉุน

หากการทานอาหารเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดกลิ่นปากก็ควรจะหันมาระมัดระวังสำหรับในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นฉุน เป็นต้นว่า กระเทียม ต้นหอม หรือของดอง เท่านี้กลิ่นปากก็จะไม่มากวนใจแน่นอน