ผ้าเช็ดตัวผืนเก่า เ ค ล็ ด ลั บซักให้กลับมาหอมน่าใช้อีกครั้ง
ผ้าเช็ดตัวเป็นสิ่งที่เราใช้เป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น หลังจากการอาบน้ำเราต้องใช้ผ้าในการมาเช็ดตัวให้แ ห้ง ฉะนั้นผ้าที่ใช้เช็ดตัวควรต้องดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้ดีต่อผิ วเรา และทางที่ดีเราควรนำไปซักเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้หอ มสะอาดอยู่เสมอ แต่ก็มีหล ายคนที่มักจะเจอกับปั ญห าผ้าเช็ดตัวพอใช้ไปนานๆสักพักก็จะเกิดกลิ่ นอั บ เพราะในบางครั้งเราก็ซักเก็บไว้ในตู้ยังไม่ทันได้ใช้ก็อับแล้ว วันนี้เราเลยมีวิธีดีๆเพื่อมาแ ก้ปั ญห านี้กัน
อุปก รณ์ที่ต้องเตรียมในการซักผ้าที่เกิ ดกลิ่ นอั บ
อย่ างแรกเลยที่ข าดไม่ได้นั้นก็คือน้ำย าซักผ้า และเพิ่มเติมด้วยเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวงกับน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงเช่นกัน และอย่ างสุดท้ายที่จะช่วยให้ผ้าหอ มนั้นก็คือน้ำย าปรับผ้านุ่ม คุณสามารถเลือ กใช้กลิ่นที่ช อบได้เลย
ขั้นตอนในการซักผ้าเช็ดตัวที่เกิ ดกลิ่นอั บมีดังนี้
1 ตระเตรียมผ้าเช็ดตัวที่ต้องการจะซักเอาไว้ แล้วใส่น้ำย าซักผ้าลงไปพร้อมกับใส่เบกกิ้งโซดาลงไปด้วยก่อนที่จะนำผ้าเข้าเครื่ อ งซักผ้า เหตุผลที่ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปด้วยนั้นคือ เบกกิ้งโซดาจะช่วยให้ผ้าเช็ดตัวนุ่ มขึ้นและหอ มสะอาดขึ้นนั้นเอง จากนั้นให้ใช้น้ำส้มสายชูใส่แทนน้ำย าปรับผ้านุ่มลงไปก่อน เพื่อปรั บให้ผ้าสะอาดและนุ่ มขึ้นกว่าเดิม
2 หลังจากที่ปั่นผ้าไปสักพักจนมาถึงขั้นตอนทิ้งน้ำและกำลังปั่นผ้าแ ห้ง ให้กดหยุดโป รแก รมไว้ก่อน เพื่อที่จะนำผ้าออ กมาสะบัดแ รงๆหลายๆที เพื่อให้ขนของผ้าเช็ดตัวนั้นฟูขึ้น จากนั้นค่อยนำผ้าใส่กลับเข้าไปในเครื่ องอีกรอบ แล้วค่อยใส่น้ำย าปรับผ้านุ่มลงไป ทีนี้ก็กดให้เครื่ อ งทำง านต่อตามปกติได้ เมื่อเสร็จสิ้ นกระบ วนก ารซักแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนการตากผ้า แน ะนำว่าควรสะบัดผ้าแ รงๆอีกครั้ง ก่อนจะนำไปตากในที่ๆอากาศถ่ ายเทสะดวก เมื่อผ้าแห้งสนิทคุณก็จะมีผ้าเช็ดตัวที่หอ มสะอาดน่าใช้แล้วล่ะ
ผ้าเช็ดตัวควรหมั่นซักเป็นประจำ ถ้ามีเวลาควรซัก หลังจากใช้ไปแล้ว 6 ครั้ง
ผ้าเช็ดตัวหลายคนอาจล ะเ ลยในการนำมาซักหรือดูแลทำความสะอาด บางคนอาจทิ้งไว้เป็นเดือน นานๆทีจะหยิบมาซักแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ผ้าเช็ดตัวเมื่อใช้ไป 6 ครั้งก็ควรนำผ้าซัก หรือเปลี่ยนผืนใหม่ใช้ได้แล้ว เนื่องจากว่าทุกวันที่เราใช้ผ้าเช็ดตัวหลังจากอาบน้ำ พวกเซ ลล์ผิ วที่ต า ยหรือแ บ คทีเ รียบนผิ วหนังนั้นจะไปเกาะสะส มอยู่บนผ้า ทำให้ผ้าเช็ดตัวนั้นส กปร ก หากอย ากจะใช้ผ้าเช็ดตัวที่หอ มสะอาดในทุกๆวัน ก็ควรหมั่นซักผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ
ซักผ้าเช็ดตัวอย่ างไร ให้ผ้ายังคงความนุ่ม ไม่แ ข็งกระด้ าง
หลังจากซักผ้าเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปตากแ ดดอ่อ นๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้แ ห้งสนิทก็สามารถเก็บเข้ามาแขวนในบ้ านได้เลย แน ะนำว่าอย่านำไปตากแ ดดแ รงๆ หรือตากทิ้งไว้น านจนแ ห้งสนิท เนื่องจากว่าจะทำให้เส้นใ ยของผ้าเช็ดตัวเสี ย ทำให้ผ้ามีสั มผั สที่แ ห้งแ ข็งไม่น่าหยิบมาใช้
ผ้าปูที่นอนควรจะซักบ่อยแค่ไหน ถึงจะสะอาดน่านอนอยู่เสมอ
ผ้าปูที่นอนที่เราใช้นอนหลับพักผ่ อนทุกคืน อาจมีคร าบเหงื่ อหรือคร าบสิ่งส กปร กต่างๆลงไปสะส ม อีกทั้งร่า งก ายคนเรายังมีการผลั ดเซ ล ล์ผิ วที่ต า ยแล้วด้วยทุกๆคืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอ าห ารชั้นดีของพวกตัวไ รฝุ่ นเลย ฉะนั้นแล้วทางที่ดีควรซักอย่ างน้อยอาทิตย์ละครั้ง โดยเฉพาะคนที่เป็นภู มิแ พ้ควรต้องซักบ่อยๆให้ผ้าปูที่นอนนั้นสะอาดอยู่เสมอ ในการซักให้ใช้น้ำร้ อนอย่างต่ำ 60 องศาเซลเซียส เมื่อซักเสร็จก็นำไปผึ่งแ ดดโดยตรง ก่อนนำมาใช้ปูที่นอนก็ควรจะรีดก่อนให้เรียบร้อย นั้นจะช่วยให้ผ้าสะอาด อีกทั้งยังช่วยจัดการพวกแ บคทีเ รี ยและจุ ลิน ท รีย์ได้ด้วย
ปลอ กหมอนควนถอ ดออ กมาซักทุกสัปดาห์
ปลอ กหมอนแน ะนำว่าให้นำไปซักพร้อมๆกับผ้าปูที่นอนได้เลย เนื่องจากเหตุผลเดียวกันเลยคือปลอ กหมอนนั้นจะมีสิ่งส กปร ก เ ชื้ อโร คและแ บคทีเ รี ยต่างๆลงไปสะส มอยู่ ฉะนั้นหากอย ากป้ องกั นสิ่งส กปร กเหล่านี้ ก็ควรนำไปซักเป็นประจำหรือซักทุกๆอาทิตย์
ฟูกที่นอนควรต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน
ฟูกที่นอนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ควรต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ โดยควรจะทำเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้ที่นอนสะอาด ไม่มีสิ่งส กปร กลงไปสะส ม ซึ่งการจะทำความสะอาดนั้นก็ง่ ายๆ เพี ยงนำเค รื่ องดู ดฝุ่นมาดู ดฝุ่นละอ องบนฟูกออ กให้หมด หากอย ากขจัดกลิ่ นหรือคร าบเปื้ อนบนฟูกด้วยก็ให้โรยเบกกิ้งโซดาเพิ่มลงไปบนฟูกให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 60 นาที จากนั้นค่อยนำเครื่ อ งดู ดฝุ่นมาดู ดซ้ำอีกรอบอย่าให้เหลือตกค้างเด็ดขาด แค่นี้ฟูกที่นอนก็สะอาด ไร้กลิ่ น ไร้คร าบแล้วล่ะ
การทำความสะอาดสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องสำคั ญต่อสุ ขอน ามั ย หากเราได้มีผ้าเช็ดตัวที่หอ มสะอาดน่าใช้ มีที่นอนหอ มๆนุ่มๆให้ได้ล้มตัวลงนอนแบบนี้มันคงจะดีกว่า อีกทั้งช่วยให้เราผ่อ นคล ายและรู้สึกสะอาดหลังจากกลับมาจากทำง านเหนื่ อ ยๆได้ นอ กจากนั้นยังป้ องกั นอ ากา รผื นคั นหรือโ ร คภู มิแ พ้ต่างๆได้ด้วย