ชับรถไกลต่างจังหวัดควรรู้ มันได้ใช้ยามจำเป็น
ช่วงเทศกาลใกล้สิ้นปี ปีใหม่แบบนี้ หลายๆคนก็พาครอบครัวออกเดินทางเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางไกลด้วยรถยนต์นั้น รถยนต์บนท้องถนน ไม่ได้มีแค่รถเราคันเดียว ดังนั้นเราจะละเลยเรื่องพวกนี้ ไม่ได้เด็ดขาด เพราะยางต้องตกอยู่ในสถาณการณ์คับขับ เรื่องเหล่านี้มันจะช่วยคุณได้
ขับรถเป็นระยะทางที่ไกลๆ ควรจะพักเครื่องบ่อยแค่ไหน?
หลักการที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้ท่านสามารถพักรถได้อย่างเป็นระบบ นั่นคือ เมื่อใดก็ตามขับขี่รถไปถึงระยะ 200 กิโลเมตร หรือโดยประมาณ 2 ชั่วโมงแล้ว ควรจะหยุดรถให้รถยนต์ได้พักสักครู่ หรือควรจะขับรถเป็นระยะทางที่ไกลๆอย่างสม่ำเสมอไม่เกิน 3 ชั่วโมงในกรณีที่มีผู้ขับเพียงแค่คนเดียว หรือไม่ควรจะเกิน 4 ชั่วโมงในเรื่องที่มีผู้ขับสลับเปลี่ยนกัน เนื่องจากสิ่งที่จะต้องพักนั้นไม่ใช่เพียงแค่คนแค่นั้น แม้กระนั้นรถยนต์เองก็จำเป็นต้องหยุดพักเพื่อเครื่องยนต์ได้รับการผ่อนคลายจากแรงเค้นต่างๆที่เกิดจากการขับรถยนต์ระยะไกลได้
ศึกษาเส้นทางการเดินทางให้ดี
สำหรับในการขับรถเป็นระยะทางที่ไกลๆจึงควรรู้เส้นทางเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เสียเวล่ำเวลาไปกับการหลงทาง หรือขับอ้อมจนกระทั่งเกินไป ถึงแม้เวลานี้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือสำหรับในการเดินทางมากมาย มีแอปพลิเคชันแผนที่ให้เลือกใช้อย่างครอบคลุม แต่ว่าคนขับขี่ต้องมีความรู้พื้นฐานเรื่องแผนที่รวมทั้งทางการเดินทางโดยประมาณบ้าง ถ้าคนขับขี่ไม่ศึกษาข้อมูลเส้นทางให้ดีก่อนเริ่มเดินทาง แล้วก็มัวแต่กังวลกับการดูแผนที่ก็อาจจะเป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากมิได้ใส่ใจกับเส้นทางสักเท่าไหร่ ดังนั้น เมื่อใดก็ตามจะต้องขับรถเป็นระยะทางที่ไกลๆน่าจะศึกษาเส้นทางเบื้องต้นก่อน
เตรียมร่างกายให้พร้อม
คนขับรถยนต์ควรจะตระเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม ยิ่งหากคนไหนกันจำต้องขับขี่รถเดินทางไกลๆแล้วไม่มีคนเปลี่ยนขับ ควรจะตระเตรียมร่างกายให้พร้อมเต็มที่ รวมทั้งการนอนให้พอเพียง ควรจะนอนให้ได้ขั้นต่ำ 7 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงย าที่ทำให้มีลักษณะง่วงซึม
คนขับรถยนต์ไม่สมควรรับประทานยาที่ทำให้มีลักษณะง่วงซึมถึงแม้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆก็ไม่สมควร คนจำนวนไม่น้อยเลือกเดินทางในช่วงกลางคืน เพื่อไปให้ถึงที่หมายในช่วงเช้า การกินยาที่ทำให้ง่วงหงาวหาวนอน บวกกับภาวะบบรยากาศเวลากลางคืนอาจส่งผลให้คุณง่วงได้ โดยเหตุนั้นไม่สมควรกินยาที่ทำให้ง่วงหงาวหาวนอนเด็ดขาด แต่ว่าถ้าทานแล้วรู้สึกง่วงงุน ควรจะเปลี่ยนให้อีกคนมาขับ หรือไม่ก็ควรจะหยุดปั้มน้ำมันนอนพักสักประเดี๋ยวแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยเดินทางต่อ
ตรวจเช็คสภาพรถยนต์กับศูนย์ที่น่าเชื่อถือ
ก่อนเริ่มเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางระยะไกลควรจะส่งรถยนต์เข้าตรวจเช็คสภาพรถยนต์กับศูนย์โดยตรง หรือร้านค้าซ่อมรถยนต์ที่น่าเชื่อถือ การขับรถยนต์ระยะไกลที่ดี ลมยาง น้ำมัน แบตเตอรี่ แล้วก็อุปกรณ์ต่างๆในรถยนต์ควรจะมีความพร้อม การเช็ครถจึงไม่สมควรละเลย
เตรียม พ.ร.บ.รถยนต์ ใบอนุญาตขับขี่ และก็ประกันรถยนต์ให้พร้อม
ขับรถเป็นระยะทางที่ไกลๆตระเตรียมอะไรบ้างที่จำเป็นจะต้อง ได้แก่ พ.ร.บ.รถยนต์และก็ใบอนุญาตขับขี่เป็นสิ่งบอกให้เห็นถึงความสามารถเกี่ยวกับด้านการขับรถยนต์ของผู้ขับแล้วก็ความถูกต้องของรถยนต์ที่วิ่งบนถนน ควรจะมีประกันรถติดตัวไว้ด้วยเนื่องจากอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา การมีประกันรถช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายถ้าเกิดเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา
ด้วยเหตุดังกล่าวเพื่อเป็นการทุ่นค่าใช้จ่ายรวมทั้งความวุ่นวายในส่วนนี้ การเลือกทำ ประกันรถยนต์ หรือ ประกันภัยภาคสมัครใจนอกเหนือจาก พ.ร.บ. ก็เลยค่อนข้างจำเป็นอย่างมาก
ประกันชั้น 1 ป้องกันความเสียหายครอบคลุมมากที่สุด อีกทั้งรถยนต์ของเรา คู่กรณี คุ้มครองป้องกันบุคคลภายในรถยนต์+นอกรถยนต์แล้วหลังจากนั้นก็ความเสียหายของสินทรัพย์ที่เกิดจากอุบัติเหตุ รวมทั้งความเสียหายอื่นๆเป็นต้นว่า ไฟไหม้ น้ำท่วมและก็โดนลักขโมย (ตามเงื่อนไขแล้วก็วงเงินของกรมธรรม์) แม้กระนั้นเบี้ยประกันก็ออกจะสูงด้วยเหมือนกัน ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละประกันภัยอาจไม่เหมือนกัน
ประกันชั้น 2+ ลักษณะความคุ้มครองใกล้เคียงกับรับรองชั้น 1 แม้กระนั้นจะเป็นลักษณะรถชนกับรถยนต์ ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละประกันภัยอาจไม่เหมือนกัน
ประกันชั้น 3 รับรองภาคเต็มใจที่มีค่าใช้จ่ายถูกสุด ความคุ้มครองต่ำสุด หลักๆเป็นคุ้มครองป้องกันเฉพาะรถยนต์คู่กรณี แต่ไม่คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันภัย เป็นพูดง่ายๆว่า ซ่อมแซมเขา ไม่ซ่อมแซมเรา ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละประกันภัยอาจแตกต่างกัน
ส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเลือกทำประกันภัยภาคสมัครใจประเภทไหน จำเป็นที่จะต้องดูรายละเอียดกรมธรรม์ หมายถึงเงื่อนไข วงเงินรวมทั้งขอบเขตของความคุ้มครองด้านต่างๆว่ามากมายน้อยอย่างไร อย่าดูแค่เพียงเบี้ยประกันอย่างเดียว ซึ่งรายละเอียดแต่ละกรมธรรม์มีการคุ้มครองป้องกันแตกต่างกันหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ประกันชั้น 3 บริษัท A บางทีอาจคุ้มครองไม่เหมือนกับบริษัท B
การเลือกทำ ประกันภัยรถยนต์ ควรพิเคราะห์บริษัทประกันที่น่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัยนั้นๆการให้บริการโดยรวม ความยุ่งยาก ระยะเวลา ไปจนถึงอู่ซ่อมในเครือ (บางประกันภัยอู่ในเครืออยู่ไกลก็ไม่สะดวก)
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ควรต้องทำเช่นไร
กรณีเกิดอุบัติเหตุให้แจ้งศูนย์รับแจ้งเหตุของบริษัทประกันภัยเมื่อเกิดเหตุ ไม่ว่าจะมีคู่กรณีไหม ตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลที่ควรจะเตรียมการไว้สำหรับแจ้งอุบัติเหตุ ตัวอย่างเช่น ชื่อผู้ขับขี่ ทะเบียน ยี่ห้อ รุ่น สี โทรศัพท์ติดต่อ ลักษณะการเกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุรวมถึงจุดสังเกต (กรณีมีการย้ายที่รถยนต์หรือสถานที่นัดพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในทันที) ควรจะถามชื่อคนรับแจ้งอุบัติเหตุ และชื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุในจุดเกิดอุบัติเหตุ
อย่าเพิ่งตกลงค่าชดเชยใดๆก็ตามทั้งสิ้น
อย่าเพิ่งด่วนรับผิด แม้ไม่แน่ใจว่าฝ่ายใดผิด ให้คอยจนกว่าพนักงานจะไปถึงที่เกิดเหตุ หากแม้คู่กรณีออกอาการพิรุธหรือบางทีก็อาจจะหนี ให้รีบจดรายละเอียดผู้ขับขี่รถยนต์คู่กรณี ดังเช่นว่า ชื่อ ที่อยู่ สถานที่สำหรับทำงาน โทรศัพท์ และก็รายละเอียดรถยนต์คู่กรณี ดังเช่นว่า ความเสียหาย ยี่ห้อ สี ทะเบียน ไว้ก่อนจะตำรวจ หรือพนักงานจะไปถึง
กรณีเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี
ให้รีบจดรายละเอียดรถยนต์คู่กรณี อย่างเช่น ความเสียหาย ยี่ห้อ สี ทะเบียน ให้ละเอียดที่สุด แล้วแจ้งตำรวจกรณีเฉี่ยวชนหลายคัน หากรถยนต์คู่กรณีคันใดขอแยกย้ายไปก่อนให้จดรายละเอียดผู้ขับขี่ และรถยนต์คู่กรณีแล้วก็หมายเลขโทรศัพท์
กรณีรถยนต์ตกลงไปในน้ำ
และไม่สะดวกสำหรับการติดต่อบริษัทสัญญาประกันภัย ให้นำรถยนต์ขึ้นจากน้ำอย่างเร็วที่สุด แล้วหลังจากนั้นก็ห้ามสตาร์ทเครื่องเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องมากขึ้น
ทุกครั้งที่สตาร์ทรถเพื่อเดินทาง อย่าลืมในสิ่งที่เราแนะนำไปก่อนเดินทาง การมีแพลน มีการวางแผนที่ดี จะช่วยให้คุณและครอบครัว เดินปลอดเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล เพราะเตรียมพร้อมทุกด้านมาเป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ทางเพจเราขอให้ทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข สวัสดีปีใหม่