เวลาดึงเบรคมือ ต้องกดปุ่มที่ก้านเบรครึเปล่า
ปุ่มที่ก้านเบรกมือ เวลาดึงเบรกมือทุกครั้ง เราต้องกดปุ่มที่ก้านเบรกหรือไม่ หลายคนขับรถมานาน ก็ยังไม่เคยรู้ และหลายๆคนก็ทำผิดๆมานาน วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับรถยนต์ให้กับเพื่อนๆ ที่ขับรถเอง รักการเดินทาง ท่องเที่ยว เพื่อเพื่อนๆจะได้เดินทางไกล อย่างมั่นใจและปลอดภัย
การใช้เบรคมือที่หลายคนยังทำผิดๆ
หลายคนอาจมีคำถามว่า เบรคมือควรจะใช้ตอนไหน ใช้เพียงแค่ตอนหยุดรถยนต์เท่านั้นไหม และปุ่มกดตรงเบรคมือควรจะใช้งานอย่างไรถึงจะถูกต้องวันนี้เรามีคำตอบมาไขข้อสงสัยเหล่านี้กัน เมื่อก่อนอื่นพวกเราจำต้องทำความเข้าใจหลักการทำงานของเบรคมือกันก่อน
เบรคมือประกอบด้วยเฟือง และก็กระเดื่อง เมื่อดึงขึ้นเฟืองจะหมุน กระเดื่องจะทำหน้าที่ล็อก ซึ่งเสียงที่ดังขณะที่ดึงเบรคมือนั้นก็มาจากการล็อกเฟืองนั่นเอง แต่ว่าหลายๆคนยังเข้าใจผิดว่าการกดปุ่มที่เบรกมือ แล้วค่อยดึงขึ้นจะช่วยยืดอายุการทำงานของเฟืองได้ และก็ทำให้ไม่เกิดเสียง ซึ่งการทำแบบนี้อาจจะทำให้เฟืองกับกระเดื่อง ลงล็อกไม่พอดีได้
วิธีการดึงเบรกมือที่ถูกต้อง ทำเช่นไร?
การดึงเบรกมือทุกครั้ง ไม่จำเป็นที่ต้องกดปุ่ม ก็แค่ดึงเบรกมือยกขึ้นมาให้สุดจนรู้สึกถึงความตึงของด้ามเบรกมือ จนไม่สามารถยกไปต่ออีกได้ นั่นหมายถึงเราได้ยกเบรกมือขึ้นจนกระทั่งสุดแล้ว และก็เมื่อต้องการปลดเบรกมือลง ต้องดึงเบรกมือขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับกดปุ่ม แล้วจึงค่อยๆกดเบรกมือลง และข้อควรระวัง เมื่อพวกเราขับขี่รถตามปกติ ต้องอย่าลืมปลดเบรกมือลงจนสุดทุกครั้ง ด้วยเหตุว่าถ้าค้างเบรกมือไว้จะทำให้ผ้าเบรกไหม้
การเติมน้ำมันเต็มถังทำเครื่องพังได้รึเปล่า
คำตอบคือ ไม่จริง เพราะการเติมเต็มถัง ผู้ผลิตรถยนต์ได้ออกแบบมาเผื่อ และป้องกันไม่ให้น้ำมันจะล้นไปถึงจุดระบายไออยู่แล้ว ซึ่งตัวถังน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับพื้นรถยนต์ ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ เรามักจะคิดไปว่าการเติมเต็มถังจนถึงคอถังด้านบนคือการเติมในส่วนบนสุดของน้ำมันเชื้อเพลิงแล้วจะทำให้น้ำมันเข้าสู่เครื่องยนต์ผ่านไปทางท่อระบายไอและทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ แต่จริง ๆ แล้วน้ำมันจากคอถังจะลงไปอยู่ในส่วนล่างของถัง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่น้ำมันจะไปทำให้เครื่องยนต์พังจากการเติมน้ำมันเต็มถังจนล้นถัง
ทางที่ดีควรจะเติมน้ำมันให้เกิน 3/4 ของถังน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ และก็เมื่อน้ำมันเหลือ 1/4 ของถัง ให้รีบเติมน้ำมันอย่าทำให้ต่ำกว่านี้ จะช่วยถนอมปั๊มติ๊กแล้วก็รักษาเครื่องยนต์ให้ใช้ได้นานขึ้น
ไปเที่ยวเขาช่วงอากาศหนาวเย็น หมอกลงเยอะ อย่าลืมเช็คใบปัดน้ำฝน
ถ้าหากคุณพบว่า ใบปัดน้ำฝนของคุณไม่อาจจะกวาดน้ำบนกระจกได้อย่างมีคุณภาพเหมือนเมื่อก่อน การใช้ใบปัดน้ำฝนที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพเป็นอันตรายต่อการขับรถยนต์ในช่วงฤดูหนาวที่หมอกลงเยอะๆเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะมีผลให้พวกเรามองดูทางไม่ถนัด ซึ่งการติดตั้งใบปัดน้ำฝนนั้นมีความต่างกันไปในรถยนต์แต่ละรุ่น โดยเหตุนั้นคุณควรต้องทำตามขั้นตอนตามคู่มือรถยนต์ของคุณเอง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนโดยปกติสามารถทำเป็นโดยยกใบปัดน้ำฝนขึ้นออกมาจากผิวกระจกรถยนต์ก่อน หลังจากนั้นกดแถบล็อกเพื่อเอาใบปัดน้ำฝนอันเก่าออกมาจากก้านปัดน้ำฝน ส่วนการใส่ใบปัดน้ำฝนอันใหม่ ก็แค่กดแถบล็อกข้างๆแล้วใส่ใบปัดอันใหม่แทนที่เดิม
การขับรถยนต์ด้วยไส้กรองน้ำมันเครื่องเครื่องสกปรกหรือเก่าเกินไป
อาจจะทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่จนไม่อาจจะกรองสิ่งสกปรกได้ ทำให้น้ำมันเครื่องเครื่องมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ เมื่อเครื่องยนต์นำน้ำมันเครื่องที่สกปรกไปใช้งาน ก็อาจจะมีผลทำให้เครื่องยนต์รถของคุณเสียหายได้
วิธีทำความสะอาดไฟหน้ารถยนต์
ฉีดล้างด้วยน้ำเปล่าและก็ลงน้ำยาล้าง เพื่อทำความสะอาดโดยการล้างเศษฝุ่นผง สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ เมื่อล้างชำระล้างเสร็จแล้ว ก็ใช้ผ้าแห้งที่พวกเราจัดเตรียมไว้ถูให้แห้ง แล้วให้นำยาสีฟันหรือเบกกิ้งโซดา ถ้าคุณเลือกใช้เบกกิ้งให้ผสมกับน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วเอามาทาลงรอบๆเลนส์ไฟหน้าให้ทั่วทุกจุดแล้วทิ้งเอาไว้ครู่หนึ่ง แล้วนำแปรงมาขัดวนเป็นวงกลมบริเวณเบาๆขัดอย่างเบามือจนกระทั่งคราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรกจะหลุดออกหมด แล้วอย่าลืมใส่ถุงมือป้องกัน เมื่อขัดเสร็จแล้ว ก็ชำระล้างด้วยน้ำยาล้างรถอีกทีแล้วล้างด้วยน้ำเปล่า ต่อจากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูแห้งขัดทำความสะอาด เช็ดให้แห้ง
อย่าลืมเช็คช่วงล่าง
ตรวจเช็คด้วยการลองขับบนถนนเรียบทางตรง โดยพิจารณาพวงมาลัยว่าตรงหรือเปล่า ถ้าพวงมาลัยไม่ตรงก็จัดการนำรถยนต์ไปตั้งศูนย์ใหม่ พวกชิ้นส่วนต่างๆของช่วงล่าง อาทิเช่นลูกหมาก ถ้าเกิดขับทางขรุขระแล้วมีเสียงกุกๆกักๆ ก็รีบให้ช่างแก้ไขโดยเร่งด่วน โช้คก็ด้วยเหมือนกัน ตรวจเช็คคราบน้ำมันรอบๆแกนโช้ค ว่ารั่วหรือเปล่า เพราะว่าระบบช่วงล่างทั้งหมดมีผลต่อการทรงตัวขณะขับขี่
เรื่องรถเป็นอะไรที่ซับซ้อนสำหรับคนที่ไม่ได้ใส่ใจศึกษา บางคนขับรถเป็น แต่จะให้เช็คให้ซ่อมอะไร เวลาที่รถมีปัญหามา ก็มักจะไม่สันทัด มักจะไปหาช่างหรือเอารถเข้าศูนย์มากกว่า การมีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับรถยนต์ติดตัวไว้บ้าง วันนี้มันอาจช่วยเหลือท่านได้ยามฉุกเฉิน