แค่มีผ้าเก่ากับน้ำส้มสายชู ถังซักผ้าสะอาดค ราบหลุดออกหมด

แค่มีผ้าเก่ากับน้ำส้มสายชู ถังซักผ้าสะอาดค ราบหลุดออกหมด

ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่หันมาใช้เครื่องซักผ้าแทนการซักมือกันมาก เนื่องด้วยความเร่งรีบในสังคมปัจจุบันที่เวลาน้อย ไหนจะเรียน ไหนจะออกไปทำงาน ไหนจะกลับมาทำความสะอาดบ้านอีก เวลาวันๆนึงหมดไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายๆคนไม่มีเวลาที่จะโฟกัสหรือใส่ใจในเรื่องการ ดูแล บำรุง ทำความสะอาดเครื่องใช้ในที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะเครื่องซักผ้า ที่วันๆเราเอาแต่โยนๆ กางเกง เสื้อ ถุงเท้า ผ้าห่ม ผ้านวม ลงไปปั่นไปซัก วันแล้ววันเล่า แต่เรากลับไม่เคยทำความสะอาดถังซักเลย

ทำไมต้องล้างเครื่องซักผ้า ?

1 ยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า เพราะว่าการล้างถังซักผ้าเป็นประจำจะทำให้สิ่งสกปรกไม่ตกค้างจนฝังแน่นอยู่ภายใน ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ซักผ้าไม่สะอาดและต้องซื้อเครื่องซักผ้าใหม่

2 ช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย รวมทั้งสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากการซักเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว เนื่องจากคราบเปื้อนเหงื่อแล้วก็มลภาวะจะถูกชะล้างไปกับน้ำแล้วก็ตกค้างอยู่รอบถังซัก

สิ่งสกปรกในเครื่องซักผ้ามาจากไหน

1 คราบเหงื่อไคล คราบอาหาร ฝุ่นละออง ผิวหนังที่ตายแล้ว ไอน้ำมันจากการทำอาหาร อื่นๆอีกมากมาย ที่ติดกับเสื้อผ้าในแต่ละวัน ซึ่งจะมีบางส่วนตกค้างสะสมอยู่ภายในถังหลังการซักผ้าในแต่ละครั้ง

2 คราบผงซักฝอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือสารเคมีต่างๆที่ใช้เพื่อการซักล้าง หลงเหลืออยู่ด้านในเครื่อง หลังจากซักผ้าเสร็จ ตะกอนและหินปูนในน้ำประปาที่เครื่องซักผ้าดูดมาใช้

วิธีล้างเครื่องซักผ้าแบบฝาบน

จัดเตรียมน้ำส้มสายชู 2 ขวดเล็ก หรือขนาด 500 มล. เปิดฟังก์ชันซักผ้ารวมทั้งเลือกระดับน้ำสูงสูง หรือเลือกระบบน้ำร้อน
ทำการเทน้ำส้มสายชูไปยังช่องผงซักฟอก หรือเทลงไปในถังเครื่องซักผ้าแล้วก็ปิดฝา ใช้เวลาปั่นโดยประมาณ 3-4 นาที แล้วก็ให้ทำหยุดเครื่องซักผ้าทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อน้ำส้มสายชูกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เมื่อครบเวลาแล้วให้เปิดเครื่องซักผ้า เลือกระบบซักผ้าปกติเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรก และก็จะทำให้กลิ่นน้ำส้มสายชูนั้นจางหายไปด้วย

วิธีล้างเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

นำผ้าเก่าสะอาดหรือผ้าที่เราไม่ใช้แล้ว ไปชุบกับน้ำส้มสายชูให้ชุ่มๆแล้วต่อจากนั้นนำใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้าและเปิดระบบปั่นแห้ง เพื่อผ้าที่ชุบน้ำส้มสายชูถูกเหวี่ยงไปๆมาๆในเครื่องซักผ้าโดยประมาณ 5-10 นาที ืเมื่อเสร็จแล้วให้กระทำพักผ้าที่ชุบน้ำส้มสายชูเอาไว้ภายในถังเครื่องราวๆ 1-2 ชั่วโมง ต่อจากนั้นนำผ้าออกมา รวมทั้งเปิดระบบซักผ้าปกติเป็นการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าให้กลิ่นน้ำส้มสายชูหายไป

หรือถ้าบ้านใครน้ำส้มสายชูหมด ก็ใช้เบกกิ้งโซดาแทนได้

ซึ่งพวกเราจะใช้เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง เทลงในเครื่องซักผ้าแบบฝาบน ที่มีน้ำเต็มถังเรียบร้อยแล้ว ส่วนเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า บางทีอาจใช้การเทลงในช่องแฟ้บตามปกติ หรือ นำบางส่วนมาค่อยๆโรยลงในถัง พร้อมทั้งหมุนไปเรื่อยๆต่อจากนั้นใช้เวลาปั่นอีกสัก 2 – 3 นาที กระทั่งเบกกิ้งโซดาละลาย แล้วก็ค่อยทิ้งเอาไว้ราวครึ่งวันจนถึง 1 คืน และก็ตามด้วยการใช้โปรแกรมซักผ้าตามปกติเพื่อล้างคราบทุกอย่างออกมาอีก 1 – 2 รอบตราบจนกระทั่งน้ำที่ออกมาจะสะอาดค่ะ

อีกอย่างก็คือ ดีเกลือฝรั่ง เหมาะกับบ้านที่กังวลเรื่องสารตกค้าง

ให้ล้างถังซักผ้าด้วยของจากธรรมชาติ อย่างดีเกลือฝรั่ง โดยการใส่ดีเกลือฝรั่ง 1 ถ้วย และก็ตามด้วยน้ำส้มสายชู 1 ลิตร กดเดินเครื่องตามปกติ ปล่อยให้เครื่องซักผ้าปั่นจนทุกอย่างละลายเข้ากัน แล้วต่อจากนั้นกดหยุดรวมทั้งแช่ถังซักไว้ 1 ชั่วโมง ค่อยกลับมากดเดินเครื่องตามปกติ และก็อย่าลืมทำการซักถังเปล่าอีกรอบเพื่อความสะอาดหมดจด

บางคนมีเสื้อผ้าแบรนเนม ที่เก็บตังซื้อมา ก็ชุดนึงราคาหลายพันหลายหมื่น พอซักไป ผ้าก็มีขุย มีคราบติดมาที่เสื้อ กลายเป็นเสื้อที่ดูไม่แพง ไม่สะอาด ไม่น่าใส่เลย และเราใส่เสื้อผ้าทุกวัน บางคนวันๆนึงเปลื่ยนหลายชุด เพราะมีออกงาน ชุดเลยซ้ำไม่ได้ นั่นยิ่งทำให้เรามีผ้าต้องซักเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน แต่ละอาทิตย์ แล้วหากเครื่องซักผ้าของเรา ขาดการดูแล ทำความสะอาด ชุดที่เราใส่ทุกวัน จะสะอาดหมดจดได้อย่างไร สำหรับใครที่มีแพลนจะล้างสุดสัปดาห์นี้อยู่แล้ว ก็สามารถนำเคล็ดลับวิธีดีๆ ที่เรานำมาแนะนำวันนี้ไปปรับใช้กันได้ ฝากเพื่อน กดแชร์ กดไลค์ เนื้อหาสาระดีๆ จากเพจเรากันด้วยน้าา ในคราวต่อไปเราจะสรรหาสาระ เคล็ดลับดีๆมาฝากเพื่อนๆ อยู่เรื่อยๆในเพจนี้ ฝากติดตามกันไปเรื่อยน้าา ขอบคุณจ้า