วิ ธีล้างแก้วให้สะ อ า ด ไม่มีค ร า บน่ าใช้เหมือนร้านอาหาร ดั ง
สังเกตุไหมว่า ทำไมแก้วที่เสริฟน้ำตามร้านอาหารดังๆ ถึงมีแก้วในร้านที่ใส สะอาด ไม่มีคราบขาวเป็นด่างๆในแก้วเลย วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีล้างแก้วให้น่าใช้ไม่ต่างจากร้านอาหารเลย ซึ่งวิธีทำนั้นก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย ง่ายมากๆ และยังใช้ที่หาง่ายจากของจากในครัวเรานี่แหละ ใครที่มีแก้วเก่าในตู้ที่ไม่ได้ใช้มานาน รื้อเอาออกมาทำตามได้เลย ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแก้วใหม่ให้สิ้ นเป ลื องตั งเพี ย งแค่ทำต ามนี้
1 ขัดแก้วด้วย เกลือ สะอาดเ ง าว าว
เกลือเป็นสิ่งที่เราหาได้ง่ ายจากในห้องครัว แทบทุกบ้ านต้องมีกันอยู่แล้ว เราสามารถนำเกลือที่เรามีอยู่มาขัดแก้วที่มีค ร าบขุ่ นได้ โดยใช้ฟองน้ำหรือผ้าเปียกจุ่มกับเกลือ แล้วขัดให้ทั่วแก้ว หรือจะใช้เปลื อ กมะนาวจุ่มกับเกลือมาขัดแก้ว อย่ างนี้ก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อขัดเสร็จแก้วก็จะเริ่มใ สขึ้น ให้เราเอาไปล้างตามปกติเท่ านี้ก็เหมือนได้แก้วใหม่แล้ว
2 แช่แก้วลงใน น้ำส้มสายชู
หากบ้ านไหนมีน้ำส้มสายชู ให้เรานำแก้วที่มีค ร าบขุ่ นลงไปแช่น้ำส้มสายชูทิ้งเอาไว้ 1 คืน แล้วค่อยเอามาล้างด้วยน้ำย าล้างจานตามปกติ เพี ย งเท่ านี้แก้วที่ขุ่ นมั ว ก็กลับมาใ สเง าแ ววว า วเสมื อ นใ หม่แล้ว
3 ล้างแก้วด้วย เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาขึ้นชื่ อเรื่องการจั ดก ารกับร อ ยคร าบต่ างๆทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว และแ น่น อ นว่าสามารถเอามาจั ดก ารกับร อยค ร าบขุ่ นบนแก้วได้เช่นเดียวกัน โดยนำเบกกิ้งโซดามาล ะล ายกับน้ำที่สะอาด หลังจากนั้นเทใส่ลงในแก้วที่มีคราบขุ่นทิ้งเอาไว้ราว 2-3 ชั่ วโมง แล้วจึงค่อยนำไปล้างออ ก เท่ านี้คร า บขุ่ นก็ถู กขจั ดออ กหมด
วิธีการเช็ดแก้วให้ไม่มีคร า บน้ำ
เมื่อล้ างแก้วเสร็จให้นำไปผึ่ งล มก่อน โดยผึ่งในที่มีแ สงสว่ างลอดเข้ามาปกติ ไม่ควรนำไปผึ่งในที่แ สงจ้ าเกินไปหรือร่มเกินไป เมื่อแก้วแ ห้งดีแล้วค่อยเอามาเ ช็ ดก่อนจะเก็บเข้าตู้ วิธีนี้จะช่วยทำให้แก้วยังคงความเง าใ สไม่มีคร า บน้ำให้ดูส กปร ก
วิธีการดูแ ลรั กษ าแก้วให้ใช้ได้น าน ไม่แ ตกหรือชำรุ ดง่ าย
1 รินเครื่ อ งดื่ มลงในแก้ว ก่อนที่จะใส่น้ำแ ข็ง
การเทเครื่ อ งดื่ มลงในแก้วก่อน จะช่วยป้ อ งกั นไม่ให้น้ำแ ข็ งกร ะท บกับแก้วโดยตรง แก้วจะได้ไม่แ ตกหรือชำ รุ ดง่ าย และยิ่งไปกว่านั้นไม่ควรนำแก้วลงไปตักในน้ำแ ข็งโดยตรง ด้วยเหตุว่าอาจทำให้เ ศ ษแ ก้วที่แ ตกลงไปปนกับน้ำแ ข็ งในถั งได้ ทางที่ดีการใช้แก้วให้ร ะวั งที่สุ ดคือควรจะรินน้ำใส่แก้วก่อน แล้วก็ค่อยใส่น้ำแ ข็ง ตามลงไปเบาๆแค่นี้ก็ช่วยป้ องกั นแก้วแ ตกได้แล้ว
2 ระมั ดร ะวั งบริเวณป ากแ ก้ว
บริเวณป ากแ ก้วคือจุดที่เป ร าะบ างที่สุด ควรร ะมั ดร ะวั งไม่ให้ถู กกร ะท บก ร ะแ ทกแ รง อย่ างเช่นตอนรินน้ำจากข วดที่แ ข็ งๆหากกะน้ำห นั กไม่ถู ก อาจจะทำให้ขวดช นกับป ากแ ก้วแ รงเกินไป ทำให้ป า กแ ก้วแ ตกได้
3 ควรจะใช้แก้วให้ถู กปร ะเ ภทกับการใช้ง าน
แก้วร้ อ นควรจะใส่เค รื่ องดื่ มร้ อน แก้วเย็ นควรจะใส่เค รื่ องดื่ มเย็ น ไม่ค วรใช้สลับกัน เนื่ อ งจากว่าเ นื้ อแ ก้วแต่ละชนิ ดรับอุ ณห ภู มิได้ไม่เหมือนกัน การรั กษ าอุ ณห ภู มิของเค รื่ องดื่ ม และการคงร สช า ติไว้ก็แต กต่ างด้วยเหมือนกัน เพราะการนำเครื่ อ งดื่ มร้ อนจัด ใส่ลงในแก้วปกติทั่วๆไป อาจส่งผลให้แก้วเกิดร อ ยร้ าวหรือแ ตกได้ ด้วยเหตุว่าอุ ณห ภู มิในแก้วสู งขึ้นอย่ างร วดเ ร็ ว จนแก้วปกตินั้นรับไม่ไหว ฉะนั้นควรที่จะใช้แก้วให้เหมาะกับเค รื่ องดื่ มนั้นๆจะดีที่สุ ด
4 เวลาล้างแก้วให้ล้างทีละใบ เพื่อความปล อ ดภั ย
แก้วแต่ละใบมีพื้ นผิ วที่แ ต กต่ างกัน ด้วยเหตุนั้นการจะล้างให้สะอาดควรต้องเอาใจใส่ในทุกๆใบ ค่อยๆล้างแล้วผึ่งไว้จนแ ห้ง จากนั้นเช็ดแล้วเก็บเข้าตู้อย่างระมั ดร ะวั ง ไม่ควรล้างแก้วครั้งละจำน ว นม ากอาจทำให้แก้วกร ะท บกันจนแ ก้วแต กแล้วก็ชำรุดเ สี ยห ายได้
การมีแก้วน้ำที่น่าใช้เหมือนในร้านอาหารนั้น ไม่ยากเลยใช่มั้ยละเพื่อนๆ เราเป็นคนหนึ่งที่ช อ บซื้ อแก้วมาเก็บเย อ ะม าก เห็นแก้วที่ไหนน่ ารั กๆก็อ ดใ จไม่ไหวทุกที คิดว่าห ล ายคนก็คงจะเป็นแบบเรา แต่ว่าเมื่อเก็บไว้น านๆหรือเอามาใช้บ่อยๆก็มักจะมีคร า บขุ่ นหรือคร า บส กปร กต่างๆเ ก าะ อย่ าลืมที่จะล้างให้สะอาดอยู่เสมอ และการจะทำความสะอาดควรต้องร ะมั ดร ะวั งสักนิด เพื่อเป็นการป้ อ งกั นไม่ให้แ ก้วแ ตก