ขับรถไปต่างจังหวัด แล้วแอร์รถไม่เย็น เก็บเอา 5 วิธีนี้ไปทำ

ขับรถไปต่างจังหวัด แล้วแอร์รถไม่เย็น เก็บเอา 5 วิธีนี้ไปทำ

การขับรถไปทั้งๆที่แอร์รถยังไม่ทำงาน แอร์รถยังไม่เย็น ในวันที่อากาศข้างนอกอบอ้าว ทำให้หลายๆคนเกิดอุบัติเหตุมานักต่อนักแล้ว เพราะบางคนขี้ร้อน พอขับรถไป แล้วแอร์รถไม่เย็น บางคนก็หงุดหงิดไม่มีสมาธิกับการดูถนน และขับรถ เพราะมัวเอื้อมมือมาหมุนมากดปรับเปลื่ยน มาตั้งค่าแอร์รถ จนไม่ได้ดูถนน

ฉะนั้นควรเช็คแอร์รถก่อนสตาร์ทรถออกไป ว่าแอร์ไม่ได้เสีย มีสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ใช่ว่าไปรู้ว่าแอร์เสียแอร์กลางทาง แล้วไปหงุดหงิดทะเลาะกับคนข้างๆ ทะเลาะกับแฟนแล้วปรับตั้งค่าแอร์ระหว่างการขับขี่ เพราะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ วันนี้เราจะมาบอ กถึงขั้ นต อ นการเ ช็ คแอร์รถยนต์ว่ายังทำง านได้ดีอยู่หรือไม่ และวิธีแ ก้ปั ญห าแอร์ร ถย นต์ไม่เ ย็ นมาฝากทุกคนกัน

วิธีเ ช็ คว่าแอร์รถยนต์ของคุณนั้น ยังเ ย็ นดีอยู่หรือไม่

1 เช็คดูว่าน้ำย าแอร์รถหมดแล้วรึป่าว

ขั้ นแ ร กให้คุณสตาร์ทรถยนต์ทิ้งเอาไว้ก่อน เปิดแอร์ให้แ ร งสุ ดและกดปุ่ม A/C ไว้ด้วย หลังจากนั้นไปเปิดฝากระโปรงรถ ดูตรงตาแมวของน้ำย าแอร์ หากเราสังเกตเห็นว่าในตาแมวมีฟ อ งอ าก า ศเ ล็ กๆนั้นจะเป็นสั ญญ า ณที่บอกว่าน้ำย าแอร์รถเริ่มจะหมดแล้ว

2 เช็คท่ อแอร์ดู ว่ารั่วหรือไม่

ท่อแอร์รั่วมักเป็นส าเ ห ตุให้แอร์ในรถไม่เ ย็ น ฉะนั้นการจะตร ว จเ ช็ คให้เริ่มด้วยการดั บเค รื่ องรถยนต์ก่อน จากนั้นผ ส มน้ำย าล้างจานกับน้ำเปล่าเทลงในฟ็อ กกี้ เปิดฝากระโปรงรถและค ล ายฝ าท่ อแอร์ออ กเ ล็ กน้อย (ตรงบริเวณที่เขียวว่า H และก็ L) เมื่อคล า ยฝาท่อแอร์เสร็จแล้วให้เราฉี ดฟ็ อ กกี้ตามจุดข้อต่อระหว่างส ายข้อแอร์ในที่ต่างๆ หากสังเกตเห็นว่าตรงจุดไหนมีฟ อ งอ าก าศเกิดขึ้นแปลว่าจุดนั้นเกิดการรั่ วซึ ม ควรที่จะนำไปซ่ อ มแ ซ มโดยเ ร็ ว

3 แผงคอยล์ร้ อ นข้างห น้ าอุ ดตั น พัดลมร ะบ ายความร้ อ นได้ไม่ดี

อีกหนึ่งส าเ ห ตุที่ทำให้แอร์ในรถยนต์ไม่เ ย็ นนั้นก็คือแ ผ งค อ ยล์ร้ อ นอุ ดตั นซึ่งจะอยู่ห น้ าสุ ดของตัวรถยนต์ และบริเวณใกล้ๆจะมีพัดลมร ะบ ายความร้ อ นอยู่ เมื่อแผงคอยล์อุ ดตั นการร ะบ ายความร้ อ นก็จะทำได้ไม่เต็ มปร ะสิ ทธิภ า พ ทำให้น้ำย าแอร์มีอุ ณห ภู มิสู งขึ้นทำให้แอร์ในรถไม่เ ย็ นนั้นเอง ซึ่งการตร ว จส อ บว่าแผงคอยล์ข้างห น้ าอุ ดตั นรึป่าวให้เช็คดังนี้

ให้เราสตาร์ทรถยนต์ทิ้ งเอาไว้ก่อน และก็เปิดแอร์ทิ้งเอาไว้ด้วย จากนั้นให้ไปสังเกตตรงพัดลมร ะบ ายความร้ อ นว่ามีเสี ย งดั งหรือหมุนช้ าหรือเปล่า หากพัดลมเสียงดั งแล้วก็หมุนช้านั้นหมายความว่าพัดลมร ะบ า ยความร้ อ นพั ง หากพบว่ามีฝุ่นเกาะแ น่ นบริเวณแผงคอยล์ร้ อ นก็ให้รีบทำความสะอาดออ ก โดยฉี ดน้ำแ ร งๆให้ตรงกับแผงคอยล์เพื่อล้างฝุ่น

วิธีแ ก้ไ ขเบื้องต้นเมื่อแอร์ในรถยนต์ไม่เ ย็ น

1 ทุกครั้งก่อนที่เราจะสตาร์ทรถ เราต้องกดปิดสวิตซ์ A/C ก่อนหรือก็คือตัวค ว บคุ มคอมเพรสเซอร์แอร์ เพราะว่าถ้าเราจะสตาร์ทรถแล้วเราเปิดทิ้งเอาไว้จะทำให้คอมเพรสเซอร์ฉุ ดกำลังลงในขณะที่เรากำลังจะสตาร์ทรถยนต์นั้นเอง

2 หลังจากที่สตาร์ทรถแล้วให้เราปรับแอร์ไปใช้พัดลมความแ ร งลมสู งสุ ดก่อน เพื่อไ ล่อ าก าศร้ อ นภ ายในรถทิ้ง เมื่อเปิดไปได้สักพักให้มาเปิดสวิตซ์ A/C เพื่อเป็นการเพิ่มความเย็นในรถให้อยู่ในระดั บที่เหมาะสม แบบนี้จะช่วยทำให้ภ ายในรถเ ย็ นเ ร็ ว อีกทั้งยังประห ยั ดแอร์ด้วย

3 หากอุ ณห ภู มิในรถสู งเกินไปทำให้มีอ าก า ศร้ อ นมาก ให้เราปรับพัดลมให้อยู่ในอุ ณห ภู มิที่สู งก่อน แล้วปัดช่ องลมแอร์ให้เป่าขึ้นด้านบน เมื่อผ่านไปสักพักเราจะรู้สึกได้ว่าอุ ณห ภู มิในรถเริ่มล ดต่ำลง ให้เราปรับมาใช้แอร์ที่มีความเ ย็ นอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยทำให้แอร์ไม่ทำง านห นั กจนเกินไป อีกทั้งยังมีผ ลให้ภ ายในรถเย็ นฉ่ำด้วย

4 เมื่อเราจอดรถไว้กลางแ ด ดน านๆทำให้ภ ายในรถยนต์ร้ อ นอ บอ้ าวมาก การจะเปิดแอร์ให้มีความเย็ นเลยก็จะมีผลให้แอร์ทำง า นห นั กเกินไป ฉะนั้นให้เราเปิดพัดลมแ ร งสุ ดก่อนเพื่อร ะบ า ยความร้ อ นราว 5 นาที จากนั้นค่อยเปิดระบบ A/C เพื่อป รั บอุ ณห ภู มิในรถให้เ ย็ นอยู่ในระดับที่เหมาะสม วิธีนี้จะช่วยลดความชื้ นภา ยในร ะบ บแ อ ร์ อีกทั้งยังเป็นการถน อ มเค รื่ องย นต์ไม่ให้เสื่ อ มเ ร็ วด้วย

5 หากเปิดแอร์แล้วไม่เ ย็ น แ ก้ไ ขเบื้องต้นแล้วก็ยังไม่เย็นอีก ให้เราปิดสวิตซ์ A/C ก่อน เปลี่ยนเป็นการเป่าพัดลมแทน เพราะหากเราเปิดร ะบ บความเ ย็ นฝื นต่อไป อาจจะส่งผลให้คอมเพรสเซอร์แอร์เ สี ยห ายได้ ฉะนั้นให้นำรถเข้าเช็ คกับศู น ย์ซ่ อ มเพื่อความแ น่ใจ ให้ช่างที่ชำน าญแ ก้ไ ขให้แบบนี้จะช่วยทำให้รถยนต์ปล อ ดภั ยกว่า

แอร์รถยนต์ไม่เย็นหรือเย็ นช้ านั้นก็เกิดจากหล ายส าเ ห ตุ หากเรามีความรู้และความเข้าใจเรื่องรถยนต์ไว้บ้ างก็จะทำให้เราแ ก้ไ ขเบื้องต้นไปก่อนได้ แต่ทางที่ดีเมื่อรถยนต์มีปั ญห าก็ความนำเข้าศู น ย์ซ่ อ ม หรือนำรถยนต์ไปเ ช็ คระย ะเ รื่ อยๆเมื่อถึงกำหนด จะได้ทราบถึงปั ญห าแล้วก็แ ก้ไ ขได้ทันท่ วงที