ผมอยากเตือนจริงๆ คือ เห็นสาวๆสมัยนี้บางคนมีความคิด liberal ไม่จดทะเบียนก็ได้ บางคนถือว่าชั้นคบมาก่อน คนนี้แฟนชั้น หรืออยู่ด้วยกันก็คือสามีแล้วนะยะ
หรือบางคนผู้ชายเป็นแค่แฟน ไปเรียกเค้าว่าสามีแล้วยังมีเลย หรือบางคนถูกผู้ชายหลอกว่าไม่อยากจดทะเบียนเพราะเหตุผลทางธุรกิจโน่นนี่ ผมอยากเตือนและอธิบายไว้ตรงนี้นะครับ
1. ถ้าไม่มีทะเบียนสมรส ต่อให้คบกันมานาน กินอยู่กันแล้ว หรือถึงขั้นจัดงานแต่งกลางอำเภอ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คนมารวมงานเป็นร้อย คุณก็ยังไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา และเขาก็ไม่ใช่สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ เป็นได้อย่างมากก็แค่ แฟน หรือ คู่นอน
2. ดังนั้น ต่อให้สังคมรับรู้ว่าคุณคบกับคนๆนี้อยู่ หรือกินอยู่ด้วยกันอยู่ แต่คุณ “ไม่มีทะเบียนสมรส”และผู้ชายเกิดไปชอบพอกับผู้หญิงคนใหม่ คุณก็ “ทำอะไรไม่ได้”
3. และยิ่งถ้าเขาไปจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงอีกคน คุณก็จะกลายเป็น “เมียน้อยทันที”
4. ดังนั้น ประเด็น “ไม่ได้อยู่ที่ใครมาก่อนหลัง แต่อยู่ที่ว่าสุดท้ายใครได้ทะเบียนสมรสไป”
5. ผู้หญิงบางคนเป็นแค่แฟน แต่จับได้ว่าผู้ชายไปคบคนอื่น หรือ ไปมีกิ๊ก ก็ไประรานเขา ระวังผู้ชายไปเลือกคนใหม่ แล้วสุดท้ายก็แต่งงานจดทะเบียนกับอีกคน ที่คุณไประรานเขา จะผิดฎหมายนะครับ
6. ถ้าไม่มีทะเบียนสมรส ต่อให้กินอยู่กับเขามานานหลายปี ช่วยเขาทุกอย่างยามลำบาก แต่ถ้าเลิกกันคุณก็จะไม่ได้อะไรกลับแม้แต่สตางค์แดงเดียว เค้าไปมีกิ๊กคุณก็ทำอะไรไม่ได้
7. ผู้ชายบางคนอ้างว่าไม่จดทะเบียนเพราะเหตุผลทางธุรกิจโน่นนี่ บอกว่าให้มากินอยู่ด้วยกันนี่แหละแต่ไม่จดทะเบียนนะ อยากบอกว่าถูกหลอกแล้วครับถ้าเจองี้ คือ บางคนมันก็ยังไม่อยากจริงจัง อยากมีคู่นอน มีคนอยู่เป็นเพื่อนแต่ไม่พร้อมผูกมัดมากกว่า ไม่ก็มีเมียอยู่แล้วแล้วมาหลอก ถ้าเค้ารักเราจริง กะแค่จดทะเบียนสมรส ไปที่อำเภอ ทำให้มันโปร่งใส ทำไมจะทำไม่ได้ครับ? กลัวโดนแบ่งทรัพย์สินเหรอถ้าหย่า ไม่มั่นใจในตัวเราเหรอ? ระดับอภิมหาเศรษฐีหรือคนสำคัญระดับโลก คุณบุญชัย เจ้าสัวธนิน คุณสงกรานต์แฟนคุณแอฟ คุณต๊อดแฟนคุณนุ่น นี่ธุรกิจใหญ่โต ระดับอภิมหาเศรษฐี เค้ายังจดทะเบียนสมรสได้ แล้วบางคนธุรกิจธรรมดา ไม่ได้ระดับพันล้าน หมื่นล้าน ทำไมจะจดไม่ได้ครับ
เวลาผมเห็นผู้หญิงมาตั้งคำถามในพันทิป โดยเฉพาะห้องบางรักกับชานเรือน ผมจะถามตลอดว่าจดทะเบียนรึยัง เห็นบางคนเรียกผู้ชายว่าสามีทั้งที่ไม่จดทะเบียนอีก ถ้าเขาตอบมาว่าไม่มีทะเบียนสมรส ผมก็บอกไปคำเดียวครับ ว่างั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้
ที่มา : pantip.com ( สมาชิกหมายเลข 2960701 )
ขอขอบคุณที่มาจาก : http://www.healthy108toyou.com/2018/11/blog-post_81.html