3 ของแต่งรถที่อย่าซื้อมาใช้เด็ดขาด เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน!
เดี๋ยวนี้อุปกรณ์เสริมกระจุกกระจิกสำหรับใช้ในรถ มีข า ยมากมายตามท้องตล า ด ซึ่งมีแต่ลายน่ารัก น่าใช้ทั้งนั้นเลย บางคนจึงตัดสินใจเลือกซื้ อมาใช้โดยไม่ได้ตะหนักถึงอันตรายที่จะตามมา อุปกรณ์บางอย่างอาจเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ แต่บางอย่างก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาด้วยเช่นกัน
อุปกรณ์เสริมติดรถยนต์ 3 อย่างที่ไม่ใช้จะดีกว่า ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
1 ที่เสียบช่องเข็มขัดนิรภัย
รถยนต์รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้จะมาพร้อมระบบเตือนเข็มขัดนิรภัย หากเราไม่ขาดเข็มขัดในระหว่างขับขี่เสียงเตือนก็จะดัง บางคนที่ไม่ชอบคาดเข็มขัด เพราะรู้สึกอึดอัด หรือบางคนก็มี ที่คิดว่าคาดเข็มขัดแล้วดูไม่เจ๋ง ถ่ายรูปตัวเองในรถไม่สวย จึงไปเลือกซื้ อที่เสียบช่องเข็มขัดลายน่ารักๆมาเสียบแทน ซึ่งคุณรู้มั้ยว่า หากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา คุณอาจกระเด็นหลุดออกนอกรถได้เลยนะ
2 เบาะรองนั่งในรถยนต์
คนที่ตัวเล็กอาจมองทางข้างหน้าได้ไม่ถนัด จึงมักจะชอบหาเบาะรองนั่งมาเสริมเพื่อให้สูงขึ้น เห็นทางข้างหน้าชัดขึ้น แต่แนะนำว่าถ้าจะเลือกเบาะรองนั่งมาหนุนให้เลือกแบบที่ไม่ลื่น ยึดติดกับเบาะแน่น เพราะหากเราเจอเหตุฉุกเฉินที่ต้องเบรกแรงๆ อาจทำให้เบาะที่เรารองนั่งอยู่ลื่นจนเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะเบาะรองที่ลื่นนั้นเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลย
3 การบูรหอมติดรถยนต์
กลิ่นหอมจากการบูรช่วยให้จมูกโล่ง และมีความสดชื่นขึ้น ซึ่งบางคนเลือกที่จะนำการบูรมาติดไว้ในรถ จะได้ไม่มีกลิ่นอับ แต่บางทีอาจลืมไปว่าเมื่อการบูรโดนความร้อนมากๆ จากการที่เราจอดรถตากแดดนานๆ อาจระเหิดได้อย่างรวดเร็ว หากละลายโดนคอนโซลรถจะกลายเป็นคราบ ดูสกปรก และยังทำให้ชิ้นส่วนบางตัวแตกหักได้ด้วย
รถยนต์ทุกคันถูกออกแบบมาให้ได้มาตรฐานในการใช้งานอยู่แล้ว ฉะนั้นอุปกรณ์เสริมเหล่านี้หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่แนะนำให้นำมาใช้ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้จริงๆก็ควรศึกษาให้ดีก่อน และเลือกใช้แบบที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสู ง
สำหรับคนที่ใช้รถทุกวัน ขับรถทุกวัน อุบัติเหตุเป็นอะไรที่เราไม่รู้เลย ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ บางคนคิดแค่ว่าเราขับรถดี คงไม่เกิดเรื่อง แต่ลืมไปว่า ในบางทีนั้น ถึงเราไม่ขับรถชน แต่ก็มีโอกาสที่คนอื่นเมา แล้วอาจขับมาชนเราได้ ดังนั้น เราควรรู้ไว้ว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุ นี่คือสิ่งที่เราควรรู้ไว้ จะได้ไม่ลน หรือทำตัวไม่ถูก
1 เมื่อเกิดเหตุ ให้หยุดรถทันที
เมื่อเกิดเหตุโดนชนเข้า ให้เรารีบหยุดรถโดยทันที อย่าขับต่อเด็ดขาด เพราะว่านั้นอาจจะทำให้เราจากการที่เป็นฝ่ายถูกกลายเป็นฝ่ายผิดจากการชนแล้วหนีแทน ให้เราหยุดรถแล้วโทรเรียกโบรกเกอร์ประกันภัย มาเคลมประกันให้เรา แบบนี้จะจบเรื่องได้ง่ายไม่บานปลาย
ส่วนผู้หญิงที่ขับรถมาคนเดียว ในที่เปลี่ยวตอนกลางค่ำกลางคืน แล้วเกิดเหตุโดนชนอย่าเพิ่งรีบลงจากรถ เพราะว่าอาจเป็นอันตรายจากพวกมิจฉาชีพได้ ให้เปิดแค่กระจกแง้มๆเล็กน้อย พอให้คุยกับเขาได้ แล้วรีบโทรเรียกประกันหรือแจ้งตำรวจ ให้ได้มีคนมาช่วยเหลือคอยช่วยไกล่เกลี่ย ดีกว่าเราเป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียว
2 โทรแจ้งประกันทุกครั้งที่เกิดเหตุ
ไม่ว่าจะเกิดเหตุชนเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็จำเป็นต้องโทรแจ้ง แม้จะดึกดื่นกี่โมงก็ต้องโทรแจ้ง หรือแม้ว่าคู่กรณีจะสัญญาว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้ เราก็ต้องโทรแจ้งประกัน เนื่องจากสัญญาปากเปล่านั้นไม่สามารถไว้ใจได้ ไหนๆเราก็ทำประกันรถยนต์อยู่แล้ว ก็ควรจะโทรแจ้งให้ถูกต้องตามขั้นตอน ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องน่าปวดหัวตามมา
3 ถ้ารถเรามีประกัน แต่ว่าอีกฝ่ายไม่มี ควรจะทำยังไง
ให้โทรแจ้งประกันฝ่ายเราก่อนเลย ให้ทางเจ้าหน้าที่มาช่วยดำเนินการ ออกใบเคลมให้ หากเราไม่ใช่ฝ่ายผิด เดี๋ยวทางประกันก็จะหาทางเรียกเก็บค่าซ่อมแซม ค่าเสียหายต่างๆมาให้ เราไม่ต้องเหนื่อยตามค่าเสียหายเลย นี่แหละข้อดีของการทำประกันรถไว้
4 ถ่ายรูปจุดเกิดเหตุไว้ให้ละเอียด เตรียมหลักฐาน
ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ประกันมา ให้เราถ่ายที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานไว้ก่อน โดยจะต้องถ่ายป้ายทะเบียนของคู่กรณี แล้วก็ร่องรอยที่เราถูกชนเก็บไว้ เก็บภาพให้ได้ทุกมุม ทุกจุดอย่างละเอียด ซึ่งสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเราถ่ายได้เลย ถ้าเกิดมีกล้องหน้ารถก็ให้เตรียมคลิปหลักฐานเอาไว้ด้วย
การใช้รถบนท้องถนนนั้น หากจากการรู้กฎจราจร รู้วิธีการขับรถอย่างถูกต้องแล้ว การตกแต่งรถนั้นก็สำคัญ เราสามารถแต่งรถเราได้ แต่การตกแต่งรถนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ไม่ใช่คิดถึงแต่ว่าจะแต่งเอาสวย เอาอวดเพื่อน จนลืมเรื่องความปลอดภัยไป