ข้อคิดเตือนใจ เป็น “หัวหน้าคน” ทิ้งอะไรทิ้งได้ แต่อย่าทิ้งลูกน้อง ต่อให้เขาแย่แค่ไหนก็ต้องพยายามช่วยเขาให้ถึงที่สุด
ทิ้งอะไรทิ้งได้ แต่อย่าทิ้งลูกน้อง ต่อให้เขาแย่แค่ไหนก็ต้องพยายามช่วยเขาให้ถึงที่สุด!
แต่ลูกน้องที่ว่าแย่ ๆ ก็มีอาการแย่หลายประเภท เช่น
1. ความรู้น้อย แต่ พยายามมาก
2. ความรู้มาก แต่ พยายามน้อย
3. ความรู้น้อย แถม ไม่พยายาม
แบบที่ 1 ต้องสอนเขา ให้ความรู้เขา เป็นพี่เลี้ยงเขา ประเมินผลและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
แบบที่ 2 ต้องเข้าไปคุย ทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต เรื่องส่วนตัว รวมถึง เรื่องอนาคตของเขา พยายามเรียนรู้ทำความเข้าใจเขา แล้วค่อยจูงใจเขาด้วยเป้าหมายงานและเป้าหมายชีวิต
แบบที่ 3 ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แล้ว…
ปล่อยให้ธรรมชาติคัดสรรท้ายที่สุด ถ้าเขาไม่ปรับตัวสังคมจะเป็นคนลงโทษเขาเอง
ฝากไว้อีกนิด.. การดูสันดารคนในสังคมการทำงาน
ถ้าอยากรู้ว่า คนๆนั้น เป็นคนอย่างไรให้ดูจากพฤติกรรมที่เขาทำกับลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ใช่ดูสิ่งที่เขาแสดงออกต่อผู้ที่สูงกว่า คนบางคนคลานเข่าเข้าหาหัวหน้าแต่เดินกระทืบเท้าเข้ามาย่ำยีและเข่นฆ่าคนเป็นลูกน้อง
“หลักการเลือกใช้คน” ที่ผู้นำต้องเข้าใจและใช้ให้เป็น!
ปรัชญาในประเทศจีนนั้นสอดแทรกความรู้และศาสตร์ต่างๆที่เป็นประโยชน์อยู่มากมาย โดยเฉพาะหลักการในเรื่องของการบริหารคนที่มีประโยชน์สำหรับนักบริหารรุ่นใหม่ที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องของการใช้ลูกน้องทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าใดนัก หลักการที่ว่านี้มีชื่อเรียกกันอย่างภาษาบ้านๆว่า “หลักการ เสือ ควาย และสุนัข”
สัตว์ทั้งสามอย่างนี้แค่เฉพาะศักยภาพทางกายก็มีความแตกต่างกันอยู่พอประมาณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสือที่มักจะมีนิสัยการออกล่าคนเดียว ควายที่มักจะเล็มกินหญ้าอย่างสงบและสุนัขที่มักจะประจบเลียหน้าเจ้านายอย่างสอพลอทุกครั้งที่มีโอกาส สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะบางอย่างของมนุษย์ทั้งสิ้น
– ถ้าคุณจะจ้าง “เสือ” คุณต้องมีพื้นที่ให้เค้า แล้วปล่อยเค้าไปล่าเหยื่อมาให้ ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องกำหนดวิธี…เพราะพวกเค้าคือนักล่า
– ถ้าคุณจะจ้าง “ควาย” คุณต้องให้หญ้าเค้าให้พอ ต้องบังคับแล้วใช้ไถนา…เพราะพวกเค้าอึดแต่ต้องจูง
– ถ้าคุณจะจ้าง “หมา” คุณต้องให้อาหาร ให้ความสนิทสนมแล้วใช้เฝ้าบ้าน ใช้ให้เห่า…เพราะพวกเค้าภักดี ประจบ จับผิดและชอบเลียปากนาย
คนไม่เข้าใจ จะใช้เสือเยี่ยงควาย จะใช้ควายเยี่ยงหมา จะใช้หมาเยี่ยงเสือ เสือไม่เลียปากนาย ไม่ประจบและไม่ไถนา ควายไม่เฝ้าบ้าน ไม่ล่าเหยื่อและไม่ประจบ หมาไม่ไถนา ไม่ล่าเหยื่อแต่ชอบเลียปากนาย
เสือ ส่วนมากเมื่อเติบโต มักจะเป็นนายคนหรือเจ้าของกิจการเพราะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง
ควาย ส่วนมากไม่เติบโตเพราะไม่คิดนอกกรอบและไม่สร้างสรรค์และมักถูกหมาดูหมิ่นและหลอกใช้
หมา ส่วนมากเติบโตในองค์กรแต่ไม่สามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองได้ ต้องพึ่งเสือและควายในการเติบโต ที่กล่าวถึงนี้คือลักษณะนิสัยบางประการของสัตว์เหล่านี้ที่ตรงกันกับนิสัยของคนบางคนที่อยู่ในบริษัทต่างๆ แน่นอนว่าหากคุณสามารถใช้ประโยชน์บุคคลต่างๆ ดังเช่นที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติของมันและใช้งานสัตว์เหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแน่นอนที่สุดว่ามันย่อมเกิดเป็นประโยชน์สูงสุดกับบริษัทอย่างเต็มที่
เสือที่ฉลาดและมองการณ์ไกลจะเอาควายไปด้วย แต่ถ้าเป็นเสือบ้าอำนาจมักจะเอาหมาไปด้วย ต้องเข้าใจและใช้ให้เป็น และคนแต่ละคนอาจจะเป็นสัตว์หลายๆอย่างเปลี่ยนไปตามเวลา สนามและเนื้องาน อ่านแล้วก็เห็นภาพทั่วๆไปในที่ทำงานทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นราชการ เอกชนหรืองานส่วนตัว จะเล็กจะใหญ่ในบ้าน ร้านค้าก็มีให้เห็นทั่วไป ถ้าเราเป็นเจ้านายหรือเจ้าของกิจการอยากได้คนแบบไหนมาไว้ทำงานให้เราหันไปทางไหนก็มีเขี้ยวเล็บ มีเขา แถมมีเราอีกด้วย จะทำงานกันไปได้อย่างไร แข้งขาก็มีหมาเลียแผล่บๆตลอด คงต้องไปฉีดยารอบสะดือบ่อยๆ
การใช้คนให้เหมาะสมกับธรรมชาติของพวกเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉะนั้นการใช้คนเป็นจึงเป็นกุญแจอีกดอกหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
#1แชร์=1ธรรมทาน แชร์ไปได้บุญ สร้างกุศลความดี
#ถ้าข้อมูลนี่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆคน อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียวน๊า!! อย่าลืมส่งให้คนที่คุณรัก ได้อ่านด้วยนะคะ
ขอบคุณ ที่มา: http://www.khaonaroo.com
คลิปจาก: https://www.facebook.com/clipdedwanni/videos/319236811957699/
ขอขอบคุณที่มาจาก : https://www.share-si.com/2018/12/blog-post_60.html